วันนี้ มารีวิวร้านอาหารที่อังกฤษกันต่อ และยังเน้นร้านที่เป็นร้านเครือข่าย เผื่อว่าท่านที่สนใจ อาจจะตามไปทานได้ง่ายกว่าร้านที่ไม่มีสาขา และวันนี้ เลือกร้านที่เป็นของเชฟระดับโลก ซึ่งคนไทยก็น่าจะรู้จัก เพราะมีสาขาที่เมืองไทยด้วย แถมเจ้าต้วก็ออกโทรทัศน์บ่อยมาก นั่นคือ ร้าน Jamies Italian ของเจมี โอลิเวอร์ (Jamie Oliver) ซึ่งก็ต้องบอกว่า ราคาก็ "เวอร์" ด้วย ไปกินกัน 3 คน ค่าเสียหายตั้ง 65.90 ปอนด์ แต่ของแบบนี้ต้องลอง ไม่ลองจะรู้ได้ยังไง และยังคงทานกันที่สาขาเมืองเซนต์อัลบันส์ (StAlbans) เหมือนเคย เพราะเราปักหลักอยู่เมืองนี้เป็นส่วนใหญ่
ขอเล่าบรรยากาศก่อนรับประทานกันก่อน คือ เราเดินไปรอที่หน้าร้าน เพื่อรอให้พนักงานพาไปที่โต๊ะ ปรากฎว่า ช้ามาก (อาจจะ) เพราะพนักงานน้อย เราเห็นโต๊ะว่างเยอะ แต่ไม่ได้ไปนั่งสักที ทำให้ไม่ค่อยประทับใจตั้งแต่แรก
พอได้ไปที่โต๊ะ ก็ได้เมนูมา มองๆ แล้ว พอพร้อมจะสั่งอาหาร ก็เรียกพนักงานยากอีก เสียเวลาไปอีกพักใหญ่ แต่ก็ได้สั่งมา 5 เมนู สำหรับทานกัน 3 คน คือ อาหารจานหลัก 3 จาน และอาหารทานเล่นอีก 2 จาน โดยอาหารจานหลัก ขอเริ่มจาก เบอเกอร์เนื้อ
เบอเกอร์นี้ เสริฟมาบนจานที่เป็นไม้ (ออกแนวเหมือนเขียง) ประทับตรา Jamie's Italian ต้องบอกว่า เป็นเบอร์เกอร์เนื้อที่อร่อยมาก อร่อยเว่อร์วัง สมเป็นร้านของเชฟชื่อดัง เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ ซอสลงตัว ชีสพอดิบพอดี ในราคา 11.95 ปอนด์
อันที่จริง ต้องย้อนไปที่อาหารทานเล่น หรืออาหารเรียกน้ำย่อยกันก่อน แต่เนื่องจากเบอเกอร์เป็นอาหารที่เด่นที่สุดในมื้อนี้ เลยขอเอามานำเสนอก่อน แล้ววกกลับไปหาอาหารทานเล่น เมนูชื่อแปลกสำหรับเรา คือ Burrata อ่านแล้วก็งงๆ แต่สรุปคือเป็นคล้ายๆ สลัดผลไม้ แต่เด็ดที่ชีสที่โปะมา
คือ ตัวสลัดผลไม้ไม่เท่าไหร่ แต่ชีสสีขาว โอ้โห อร่อยมาก ไม่รู้เขาใช้ชีสอะไร ราคาจานนี้ 7.50 ปอนด์ ถือว่าคุ้ม
จานต่อมาคือ ปลาหมึกทอด ในเมนู เขียนชื่อง่ายๆ คือ Crispy Squid ราคา 7.25 ปอนด์
จานนี้ ต้องบอกว่า เฉยๆ หลายร้านในบ้านเรายังปรุงรสอร่อยกว่า อันนี้ก็แค่ปลาหมึกกับมายองเนส บีบน้ำมะนาวเพิ่มรสนิดนึง ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมาย
มาต่อกันที่จานหลักจานที่ 2 คือ พิซซาเห็ด ในเมนูเขียนว่า The Funghi Pizza ราคา 12.95 ปอนด์
ด้วยความไม่เกรงใจ เจมี โอลิเวอร์ ขอบอกว่า จานนี้ คือหายนะ ถ้าดูจากรูป เห็นขอบพิซซา ก็คงพอจะเดากันออกว่า มันไม่อร่อยเลย คือ แป้งเหนียว หนา หน้าน้อย และด้วยความที่เราไปทานกัน 3 คน เลยแบ่งกันทานทุกจาน จานนี้ ทีแรก เราพยายามใช้มีดหั่นแบ่ง แต่ปรากฎว่า มีดหั่นไม่ขาด สุดท้ายต้องเอามือดึงๆ และพยายามกัด พยายามเคี้ยวกันแบบเมื่อยกรามเล็กน้อย ไม่เคยเจอพิซซาที่เหนียวได้ขนาดนี้ ถ้าวันไหนมีโอกาสเจอ เจมี โอลิเวอร์ เราอยากจะเดินไปบอกว่า อาหารของร้านคุณมันทำเราเกือบกรามค้างแน่ะ
จานหลักจานสุดท้าย เราเรียกเองว่า สารพัดย่าง ราคา 19.95 ปอนด์
ชื่อในเมนูเขียนว่า Mixed Grill ก็คงตามที่เราแอบเรียกว่าสารพัดย่าง มีเนื้อย่าง ไส้กรอกย่าง เห็ดย่าง ก็ต้องบอกว่า จานนี้ เห็นหายนะอีกจานนึง ทั้งจาน มีอร่อยอยู่แค่เห็ดย่าง นอกนั้น ไม่สมราคา 19.95 ปอนด์ ที่ได้เนื้อเหนียว ไม่นุ่ม ชุ่ม แตกต่างจากเบอร์เกอร์อย่างชัดเจน อ้อ ของดีอีกอย่างที่ต้องให้เครดิต คือ สลัดที่เคียงมากับของย่าง อันนี้อร่อย ออกรสเปรี้ยว ทำให้ตัดกับความเลี่ยนของอาหารอื่นๆ ได้ และมีความสดชื่นมากขึ้น
ว่าแล้ว มาดูเมนูของร้านกันหน่อย
ตามมาด้วยบิลเก็บเงิน ซึ่งก็รอนานแสนนานอีกเหมือนกัน กว่าจะตามพนักงานมาเก็บเงินได้ (ถ้าหนีไปโดยไม่จ่าย เราคิดว่า พนักงานก็ไม่รู้นะเนี่ย)
จะว่าแพงก็แพง แต่ก็ไม่ได้แพงกว่าร้านอื่นๆ ในระดับเดียวกัน อาจจะบอกว่า กลางๆ ดีกว่า แต่ที่สำคัญกว่าราคาคือ มันไม่อร่อยสมชื่อชั้นของ เจมี โอลิเวอร์ และที่ตลก (ร้าย) คือ พอเราไปเล่าให้คนอังกฤษฟังว่าไปทานอาหารร้านนี้มา มีแต่คนหัวเราะ แล้วบอกว่า คนอังกฤษเค้าเลิกกินกันแล้ว มีแต่พวกต่างชาติหัวดำอย่างเราที่ยังอยากไปลอง เพราะได้ยินชื่อเสียงของเขา แต่คนที่อยู่กันประจำรู้แล้วว่า ร้านนี้ ไม่อร่อย งานกร่อยไปเลย แต่ก็ยังคิดว่า เอาเหอะ ไม่ลองก็ไม่รู้ซิน่า
งานนี้ เราสามคน ขำกันกลิ้ง ที่อุตส่าห์ดั้นด้นมาหาร้าน อุตส่าห์รอบริการ แล้วมันก็แย่ 555 แต่ยังหัวเราะกันออก ก็ชีวิตมันต้องมีสีสันนี่นา
อ้อ อย่างน้อย เบอเกอร์ก็อร่อยตั้งอย่างนึงแน่ะ !!!
I-Dea Stories (ไอ) เดียสตอรี่ส์ เป็นบล็อคที่รวบรวมผลงานเขียนส่วนตัวของอดีตสองนักข่าวบางกอกโพสต์ ซึ่งมีมากหมายหลายประเภท ทั้ง เรื่องสั้น บทความประวัติศาสตร์ ศิลปะ ศาสนา และที่สำคัญ สิ่งที่เป็นอาชีพของเราในยามนี้ คือ การท่องเที่ยว ที่พ่วงอาหารการกินมาด้วยโดยปริยาย (อ่านฟรีฮับ)
ผ่าตัดสมอง
ผ่าตัดสมองเหรอ...เรื่องเล็กน่า :)
เมื่อต้นปี 2559 เรามีอาการผิดปกติ เหมือนจะชัก เลยไปหาหมอ ตรวจพบว่า มีเนื้องอกในเยื่อหุ้มสมอง แต่ยังเป็นขนาดเล็ก และเนื้องอกประเภทนี้ ส่วนใหญ...

-
เรื่องสั้น "เบื้องหลังรอยยิ้มของโมนาลิซา" ตีพิมพ์ใน "ขายหัวเราะ" วันที่ 6 ก.ค. พ.ศ.2559 เป็นเรื่องสั้นที่ "รัก...
-
ร้าน Salad Factory (สลัด แฟคตอรี่) เป็นร้านที่อยากแนะนำมากๆ เพราะอาหารคุณภาพดี ราคาไม่แพง ของดังของร้านนี้ ก็ตามชื่อเลย คือ สลัดประเภทต่างๆ...
-
เรื่องสั้น "อโหสิกรรม" / ตีพิมพ์แล้ว ใน "ขายหัวเราะ" มิ.ย.2559 ตัดสินใจเขียนเรื่องสั้น หลังจากรู้ว่า มีเนื้องอกในสมอง ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น