เดินทางไปอังกฤษรอบนี้ ไปแบบด่วนกระทันหัน จากเดิมที่จองตั๋วไปญี่ปุ่น ก็เปลี่ยนจุดหมายเป็นลอนดอน เลยต้องรีบซื้อตั๋วแบบไม่ทันตั้งตัว และเนื่องจากมีเวลาน้อย เลยเลือกแบบบินตรง ซึ่งก็มีให้เลือกเพียง 3 ราย คือ การบินไทย อีวา และบริติช แอร์เวยส์ และเมื่อเทียบราคาแล้ว ก็เลือกบริติช แอร์เวยส์ ทำให้ได้ความรู้ใหม่ว่า บริติช แอร์เวยส์ ไม่ได้เป็นสายการบินแบบฟูลเซอร์วิส แต่เป็นกึ่งๆ โลว์คอสต์ ทำให้ตกใจมาก เพราะปกติ ทุกครั้งที่จองตั๋วเสร็จ ก็จะเข้าไปเลือกที่นั่ง แต่ของบริติช แอร์เวยส์ เลือกที่นั่งไม่ได้ค่ะ หรือจะว่าได้ ก็ได้ แต่ต้องจ่ายเพิ่ม คนละประมาณ 5,000 บาท ไอ๊หยา ไม่อยากเชื่อเลยว่าสายการบินแห่งชาติของบริเตน จะเป็นไปได้ขนาดนี้ และหากต้องการที่นั่งตรง Exit ที่กว้างกว่าจุดอื่นๆ ก็จ่ายแพงขึ้นไปอีก พอคิดแล้วคิดอีก เลยไม่จ่าย เพราะ 2 คน ปาเข้าไปเป็นหมื่น แต่บริติช แอร์เวยส์ก็ขยันส่งอีเมล์มาเตือนทุกวันว่า จ่ายเงินจองที่นั่งเหอะ ไม่งั้นเดินทาง 2 คน อาจจะต้องแยกกันนั่งนะ แหมๆๆๆ มีเตือนให้ตกใจอีก
แต่โชคดี ระหว่างคิดหาข้อมูล ก็ได้พบว่า ตัวเองเป็นสมาชิกของกาตาร์ แอร์ ระดับ ruby (คำนี้ อ่านออกเสียงแล้วขำทุกที ฉันเป็น "รูบี้" ย่ะ 555) ซึ่งพอดีว่า เป็นพัธมิตรกับ บริติช แอร์เวยส์ และไอ้ความ "รูบี้" นี่แหละ ทำให้สามารถจองที่นั่งได้ฟรี เลยหมดปัญหา
ก็มาเจอปัญหาที่ 2 ให้ตาย สายการบินแห่งชาติของบริเตน ให้น้ำหนัก 46 กก. แต่แบ่งออกเป็น 23 กก.สำหรับโหลดกระเป๋า 1 ใบเข้าใต้ท้องเครื่อง และอีก 23 กก.ให้ถือขึ้นเครื่อง ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า กระเป๋าต้องมีขนาดไม่ใหญ่เกินกำหนดของการขึ้นเครื่อง และผู้โดยสารต้องสามารถยกไปเก็บไว้ที่เก็บสัมภาระบนหัวได้โดยที่พนักงานจะไม่ช่วย ก็ OK ค่ะ ใครจะเอาอะไรไปขึ้นเครื่องได้ตั้ง 23 กก.กับกระเป๋าใบนิดๆ (เอ หรือจะขนหินไปดี 55 แต่ต้องลำบากยกขึ้นหัวอีก เดี๋ยวตกมาหัวแตกจะยุ่ง)
นอกจากเรื่องที่นั่งกับน้ำหนัก บริติช แอร์เวยส์ ยังเป็นสายการบินแห่งชาติที่ขนาดของเก้าอี้เล็กที่สุดในบรรดาคู่แข่งทั้งหมด จอดูทีวีเล็กที่สุด มีหนังให้ดูน้อยที่สุด และไม่มีเกมให้เล่น ดังนั้น อยู่บนเครื่อง นอนดีกว่า คร่อก....
พอไปถึงอังกฤษ บ่นๆ กับเพื่อนชาวอังกฤษว่า ทำไม สายการบินแห่งชาติของยูมันแย่ขนาดนี้ คนอังกฤษก็จะรีบบอกว่า ไม่ใช่ๆๆๆ เดี๋ยวนี้ บริติช แอร์เวยส์ ไม่ได้เป็นของอังกฤษแล้ว แต่พวกสเปนมาเทคโอเวอร์ไปตะหาก ห๊า...เพิ่งรู้นะเนี่ย
เห็นอย่างนี้แล้ว คิดถึง การบินไทย...ฉันรักเจ้าป้าขึ้นมาเลยแฮะ
จอเล็กนิดนึง
เราไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และพยายามไม่ดื่มน้ำหวาน เวลาขึ้นเครื่องบิน เลยมักจะขอ "สปาร์คกิ้งวอเตอร์" ซึ่งทุกสายการบิน มีให้บริการตลอด แต่ของบริติช ให้รอบเดียว นอกนั้นมีแต่ไวน์ ซึ่งเราไม่ดื่ม
อาหารมื้อแรก เขาถามว่า จะเอาปลา หรือไก่ เลยเลือกปลา ได้ออกมาหน้าตาแบบนี้ เดาได้เลยว่า มาจากครัวการบินไทยแน่ๆ
อาหารมื้อที่สองก่อนเครื่องลง เป็นเนื้อ และยังคงคอนเซปต์ที่ชัดเจนว่าเป็นของไทย
อาหารขากลับ
ข้างในเป็นพาสต้า หน้าตาประหลาดๆ
กาแฟ รอบแรก เสริฟในแก้ว รอบสองเป็นแก้วกระดาษ
อาหารรอบสอง เขาบอกว่าเป็นอิงลิช เบรคฟาสต์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น