วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563

สลิ่ม หรือ ซ่าหริ่ม

สลิ่ม หรือ ซ่าหริ่ม

(เรื่องนี้ เอาเป็นเกร็ดความรู้ ไม่ว่ากันด้วยการเมืองเน๊าะ)

ชื่อขนมที่เราได้ยินกันบ่อย เพราะถูกนำมาใช้ในทางการเมือง คือ สลิ่ม แต่จริงๆ แล้ว ประเทศไทย ไม่มีขนมชื่อ สลิ่ม แต่มีขนมที่ชื่อ ซ่าหริ่ม ต่างหาก

ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้แปลคำว่า ซาหริ่มว่า เป็น นาม หมายถึง ชื่อขนมอย่างหนึ่ง ทำด้วยแป้งถั่วเขียว ลักษณะเป็นเส้นเล็กและยาว มีหลายสี กินกับนํ้ากะทิผสมนํ้าเชื่อมใส่น้ำแข็ง

ขนมที่ชื่อ ซ่าหริ่มนี้ มีหลักฐานย้อนไปถึงสมัย รัชกาลที่ 2 ที่ทรงมีพระราชนิพนธ์กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน บทที่ว่า

ซ่าหริ่มลิ้มหวานล้ำ แทรกใส่น้ำกะทิเจือ
วิตกอกแห้งเครือ ได้เสพหริ่มพิมเสนโรย

ทำให้เรารู้กันว่า ซ่าหริ่ม เป็นขนมที่คนไทยกินกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ศตวรรษ และนักประวัติศาสตร์ยังเชื่อว่า น่าจะเป็นขนมที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา

แต่เราก็รู้กันอีกว่า ซ่าหริ่ม เป็นขนมที่กินเย็นๆ ถึงจะอร่อย นั่นหมายถึงต้องมีน้ำแข็ง แต่กว่าประเทศไทยจะมีน้ำแข็ง ก็เป็นช่วงรัชกาลที่ 5 ดังนั้น ก่อนหน้านั้น ซ่าหริ่ม คงจะไม่ได้เย็นชื่นใจเพราะน้ำแข็ง แต่มีการโรยเกล็ดพิมเสน เพื่อให้ได้ความเย็นแบบอดีต

ส่วนที่มาของ ซ่าหริ่ม สันนิษฐานว่า เป็นคำภาษาชวา Sa-Rim เพราะขนมชนิดนี้ มีอยู่ก่อนแล้วในอินโดนีเซีย มาเลเซีย เป็นขนมแป้งเหนียวใส มีการผสมสี 

แต่ทำไม คำว่า สลิ่ม กลายเป็นคำศัพท์ทางการเมือง นั่นต้องย้อนไปในยุคที่มีการขัดแย้งทางความคิด เกิดกลุ่มเสื้อเหลือง เสื้อแดง และต่อมา ก็เกิดกลุ่มเสื้อหลากสี ที่นำโดย นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ในปี 2010 ที่เน้นว่า ไม่แบ่งสี เป็นกลางทางการเมือง และความหลากสี ทำให้คำว่า ซ่าหริ่ม ถูกนำมาใช้เรียกแทน และเพี้ยนเป็น สลิ่ม ขนมหวาน ที่เมื่อกลายเป็นบริบททางการเมืองแล้ว “สลิ่มไม่หวาน” เอาเสียเลย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผ่าตัดสมอง

ผ่าตัดสมองเหรอ...เรื่องเล็กน่า :)

เมื่อต้นปี 2559 เรามีอาการผิดปกติ เหมือนจะชัก เลยไปหาหมอ ตรวจพบว่า มีเนื้องอกในเยื่อหุ้มสมอง แต่ยังเป็นขนาดเล็ก และเนื้องอกประเภทนี้ ส่วนใหญ...